top of page
รูปภาพนักเขียนChut N

ทิศทางวีซ่านักเรียนออสเตรเลียปี 2024 | เข้มขึ้น เน้นเรียนมากขึ้น แก้ไขนักเรียนต่างชาติหนีเรียน

บล็อกวันนี้ออกตัวก่อนเลยว่าเป็นการแปลบทความจากเว็บไซต์ Study Travel Network ซึ่งผู้เขียนเห็นว่าสรุปความเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายวีซ่าออสเตรเลียในช่องปี 2024 ที่จะถึงนี้ ไว้อย่างเข้าใจง่ายที่สุด อาจไม่ใช่การแปลแบบคำต่อคำ แต่เป็นการสรุปใจความเนื้อหาส่วนที่น่าจะส่งผลกระทบกับนักเรียนไทยมากกว่า หากหลังจากนี้มีการประกาศเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลออสเตรเลียเมื่อไหร่ แน่นอนว่าทีม Hub 101 ก็จะมาแจ้งข่าวทุกคนอย่างแน่นอน

 

ที่มา: Australia's migration strategy: reforms on post-study work, language requirements and more <Link: https://studytravel.network/magazine/news/0/30285>


(ใครคิดว่ายาวเกินไปแอบเลื่อนไปอ่าน TL;DR ด้านล่างเลยก็ได้ค่ะ)


“รัฐบาลออสเตรเลียประกาศ Migration Strategy หรือแนวทางนโยบายเกี่ยวกับการโยกย้ายถิ่นฐานฉบับใหม่ มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างส่งผลกระทบกับนักเรียนต่างชาติ ไม่ว่าเกณฑ์คะแนนภาษาอังกฤษ / ระยะเวลาวีซ่า post-study ที่สั้นลง / เส้นทางสู่วีซ่าทำงาน / การตรวจสอบสถาบันที่มีความเสี่ยงสูงอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น / และการปฎิรูป GTE

 

Department of Home Affairs (DHA) หรือที่เรียกกันว่ากระทรวงกิจการภายในตีพิมพ์เอกสาร ‘Migration Strategy: Getting Migration Working for the Nation. For workers. For businesses. For all Australians’ ความยาว 100 หน้า โดยมีการกล่าวถึงอุตสาหกรรมการศึกษาเป็นหนึ่งในเนื้อหาหลัก



1-เกณฑ์คะแนนภาษาอังกฤษ


เกณฑ์คะแนนภาษาอังกฤษที่สูงขึ้นจะถือเป็นหนึ่งในมาตรการหลักที่มีผลบังคับใช้ในช่วงต้นปี 2024 ที่จะถึงนี้ ทั้งนี้เพราะรัฐบาลออสเตรเลียเห็นว่าเกณฑ์ขั้นต่ำในปัจจุบันนั้นต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับมาตรการของประเทศอื่น ๆ นอกจากนี้เกณฑ์ภาษาที่ต่ำเกินไปหมายถึงนักเรียนอาจไม่สามารถปรับตัวหรือพัฒนาไปสู่การเรียนรู้หรือการทำงานได้ตามเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ตัวอย่างการปรับขึ้นของคะแนนภาษา เช่น

  • Temporary Graduate Visa จากเดิม IELTS 6.0 เป็น 6.5

  • Student Visa จากเดิม IELTS 5.5 เป็น 6.0

    • นักเรียนที่สมัครแพคเกจ (ภาษา+วิชาชีพ) จากเดิม IELTS ขั้นต่ำ 4.5 เป็น 5.0

    • นักเรียนที่สมัคร foundation และ/หรือ pathway มหาวิทยาลัย เป็น IELTS 5.5

นอกจากนี้ทางรัฐบาลจะยกระดับความเข้มงวดเกณฑ์การรับสมัครของสถาบันการศึกษาด้วย โดยกำหนดให้สถาบันรายงานระดับภาษาของนักเรียนแต่ละคน ณ ช่วงเวลาที่เริ่มเข้าเรียนภาษา อย่างไรก็ตามรายละเอียดส่วนนี้ยังไม่ชัดเจน ทาง English Australia (หน่วยงานที่เกิดจากการรวมตัวของสถาบันภาษาในออสเตรเลีย) กล่าวว่าจะติดตามผลเพื่อขอข้อมูลโดยละเอียดอีกครั้ง


ielts test report paper


2-การเปลี่ยนแปลงระยะเวลา Post-study Visa


Temporary Graduate Visa ที่อนุญาตให้นักเรียนต่างชาติที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดสามารถอยู่ต่อในออสเตรเลียเพื่อทำงานหลังเรียนจบได้ จะได้รับการปรับปรุงให้มีเงื่อนไขที่เข้มงวด แต่ในขณะเดียวกันกระบวนการพิจารณาก็จะเรียบง่ายมากขึ้น โดยคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ช่วงกลางปี 2024 เนื้อหาหลักจะเกี่ยวกับระยะเวลาวีซ่า รวมทั้ง pathway ไปสู่วีซ่าประเภทอื่น ๆ

 

จากการตรวจสอบรัฐบาลเห็นว่าผู้ถือวีซ่าประเภท Temporary Graduate มากกว่า 50% นั้นทำงานใน ’อาชีพที่ใช้ทักษะขั้นต่ำ’ ซึ่งไม่สามารถช่วยให้พวกเขาพัฒนาทักษะจนมีคุณสมบัติพอสำหรับสมัครวีซ่า PR ได้


สิทธิในการทำงานหลังเรียนจบที่จะถูกปลี่ยนแปลง เช่น

  • นักเรียนที่จบปริญญาตรี อยู่ต่อได้ 2 ปี เหมือนเดิม

  • นักเรียนที่จบปริญญาโท (coursework) อยู่ต่อได้ 2 ปี จากเดิม 3 ปี

  • นักเรียนที่จบปริญญาโท (research) อยู่ต่อได้ 3 ปี เหมือนเดิม

  • นักเรียนที่จบระดับปริญญาเอก PhD อยู่ต่อได้ 3 ปี จากเดิม 4 ปี

สิทธิการต่อวีซ่าครั้งที่ 2 ระยะเวลา 1-2 ปี สำหรับนักเรียนในพื้นที่ชนบทที่กำหนดจะยังอยู่คงเดิม


สิทธิพิเศษในการต่อวีซ่าของผู้ที่เรียนจบสาขาวิชาขาดแคลน (Skill Shortage) ที่ประกาศไว้เมื่อปีที่แล้วจะได้รับการยกเลิก ยังไงก็ตามนักเรียนที่ทำงานในอาชีพที่ใช้ทักษะเฉพาะ จะยังสามารถสมัครวีซ่า PR ที่พิจารณาจากทักษะเป็นหลัก หรือสามารถสมัครวีซ่าใหม่ประเภท Skills in Demand ได้



3-Genuine Student Test (GST) / การตรวจสอบสถาบันที่มีความเสี่ยงสูง

การตรวจสอบเพ่งเล็งจะเน้นไปที่ใบสมัครวีซ่าของนักเรียนที่ลงสมัครใน’สถาบันที่มีความเสี่ยงสูง’ รายละเอียดส่วนนี้จะประกาศอีกครั้งช่วงต้นปี 2024

 

การทดสอบนักเรียนที่มีเป้าหมายเพื่อการศึกษาจริง หรือ Genuine Student Test (GST) จะมาแทนที่ระบบ GTE เดิม รัฐบาลกล่าวว่าการบังคับใช้ GST นั้นจะเป็นประโยชน์กับนักเรียนที่มีเป้าหมายเพื่อการศึกษา และช่วยกรองผู้ที่เดินมาทำงานโดยใช้วีซ่านักเรียนบังหน้าออกไป

 

นอกจากนี้การตรวจสอบนี้จะช่วยสร้างความชัดเจนว่าใครจะได้ไปต่อตามกระบวนการต่อยอดวีซ่าหลังเรียนจบนี้ โดยเนื้อหาของการคัดกรองนี้ค่อนข้างชัดเจนว่านักเรียนต่างชาติส่วนมากจะต้องเดินทางกลับประเทศหลังเรียนจบ

 

ทางรัฐบาลจะประกาศเงื่อนไขการพิจารณาหลัก 2 ประการเพื่อให้เจ้าหน้าที่วีซ่ายึดเป็นแนวทาง เงื่อนไขแรกคือการพิจารณาสถานการณ์ของตัวผู้สมัครเอง เช่น ผลการเรียน พัฒนาการเส้นทางอาชีพ ตลอดจนประโยชน์ของหลักสูตรที่มีต่อการทำงานของผู้สมัครในอนาคต

 

เงื่อนไขที่สองคือการจัดลำดับความสำคัญของใบสมัครวีซ่าตามระดับความเสี่ยง ความหมายคือใบสมัครจากสถาบันที่มีความเสี่ยงสูงจะใช้เวลาในการพิจารณามากกว่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะต้องพิจารณาทั้งประวัติผู้สมัคร และตรวจสอบคุณภาพในการปฏิบัติงานของสถาบันด้วย


visa application form and passport and pencil


4-จำกัดการต่อวีซ่า onshore ไปเรื่อย ๆ (visa hopping)


นับตั้งแต่ต้นถึงกลางปี 2024 รัฐบาลออสตเรลียจะเข้มงวดในการพิจารณาใบสมัครของนักเรียนต่างชาติที่ยื่นต่อวีซ่าจากในออสเตรเลียมากขึ้น ทั้งนี้เป็นความพยายามของรัฐบาลที่จะจำกัดจำนวนผู้ที่ถือวีซ่า ‘ชั่วคราวแบบถาวร’ (permanently temporary) โดยเฉพาะนักเรียนต่างชาติที่อยู่ในออสเตรเลียไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีแนวโน้มที่จะสามารถพัฒนาสถานะไปสู่การเป็นผู้พำนักถาวร (permanent resident) ในอนาคต โดยสถิติล่าสุดประจำปีการศึกษา 2022/23 มีนักเรียนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลียด้วยวีซ่านักเรียนตัวที่ 2 และ 3 มากกว่า 150,000 คนทีเดียว

 

นักเรียนจะต้องอธิบายได้อย่างชัดเจนว่าหลักสูตรที่ต้องการสมัคร (เมื่อต่อวีซ่า) นั้นเป็นประโยชน์กับอาชีพและการศึกษาของตนยังไง

 

นอกจากนี้จะมีการจำกัดสิทธิผู้ที่เรียนจบและได้รับ Temporary Graduate Visa ไม่ให้ย้อนกลับมาสมัครวีซ่านักเรียนอีกครั้งด้วย



5-เงื่อนไขของสถาบันการศึกษา


การศึกษา Nixon Review ที่รัฐบาลจัดทำเมื่อช่วงปีที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นสถาบันการศึกษาหลายแห่งอาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายวีซ่าเพื่อหาผลประโยชน์ ทั้งนี้รัฐบาลจะประกาศนโยบายการตรวจสอบและควบคุมสถาบันการศึกษาให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ไม่ว่ามาตรฐานการดำเนินงาน คุณภาพการเรียนการสอน เงื่อนไขการรับนักเรียน ตลอดจนบริการที่เกี่ยวข้องสำหรับนักเรียนต่างชาติ


เพิ่มเติม Nixon Review: https://shorturl.at/wyQS7



6-มาตรการอื่น ๆ

รัฐบาลออสเตรเลียสัญญว่าจะใช้เงินลงทุนมูลค่า A$19 ล้าน เพื่อพัฒนาคุณภาพของโปรแกรมวีซ่านักเรียน เป้าหมายหนึ่งของแผนการครั้งนี้คือระบุตัวตนนักเรียนและเอเจนท์ที่ใช้ประโยชน์จากวีซ่านักเรียนอย่างผิดวัตถุประสงค์

 

เป้าหมายอีกประการของแผนงานครั้งนี้คือใช้ระบบการศึกษาเป็นเครื่องมือช่วยเหลือให้นักเรียนตระหนักถึงศักยภาพของตนเอง

 

นอกจากนี้รัฐบาลยังกล่าวว่าเงื่อนไขการรับสมัครที่เข้มงวดมากขึ้น การเรียนรู้ผ่านการทำงาน ตลอดจนการฝึกงาน ทั้งหมดนี้จะช่วยให้ผลลัพธ์การจ้างงานดีขึ้นในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วย โดยรัฐบาลจะทำงานร่วมกับสถาบันการศึกษา สหภาพแรงงานต่าง ๆ รวมทั้งภาคธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสในการทำงานให้กับนักเรียนมากขึ้น



TL;DR สรุปคือการพิจารณาวีซ่าปีหน้าน่าจะเข้มข้นขึ้นอีกเพื่อกรองเอาเฉพาะนักเรียนที่มีเป้าหมายไปเรียนจริง โดยเน้นไปที่นักเรียนที่มีศักยภาพสามารถพัฒนาไปเป็นแรงงานใช้ทักษะ (skilled worker) เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจออสเตรเลียนั่นเอง มาตรการหลัก ๆ ที่เห็นได้ชัดคือเกณฑ์คะแนนภาษาที่สูงขึ้น การพิจารณาแบคกราวน์ประวัติการเรียนการทำงานของผู้สมัคร รวมไปจนถึงสถานะการเงิน



อันที่จริงแนวโน้มวีซ่านักเรียนออสเตรเลียที่พิจารณาเข้มงวดขึ้นก็เป็นเรื่องหลายฝ่ายเห็นด้วยกันโดยตลอดตั้งแต่หลังประกาศเปิดประเทศเมื่อต้นปี 2022 ที่ผ่านมา หลังโควิดจำนวนใบสมัครวีซ่าออสเตรเลียเพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนโดยเฉพาะใบสมัครวีซ่านักเรียนจากประเทศในทวีปเอเชียหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย กระแส #ย้ายประเทศ บนโลกโซเชียลส่งผลให้ตัวเลขใบสมัครวีซ่านักเรียโตขึ้นหลาย 100% ซึ่งต้องยอมรับว่ามีทั้งคนที่ตั้งใจไปเรียนจริง มีทั้งคนที่คิดใช้วีซ่านักเรียนบังหน้าเพื่อทำงาน ทางรัฐบาลออสเตรเลียเองก็ตระหนักถึงปัญหานี้ จึงพยายามออกแบบและพัฒนาระบบคัดกรองนักเรียนที่มีประสิทธิภาพออกมาเรื่อย ๆ


เดิมทีการใช้ระบบพิจารณา SSVF ก็เชื่อว่าจะช่วยคัดกรองนักเรียนได้โดยใช้การจดบันทึกสถิติและจัดอันดับความเสี่ยงประเทศและสถาบัน ซึ่งก็ใช้คัดกรองนักเรียนได้ประมาณหนึ่งในช่วงแรก แต่แน่นอนว่าไม่มีระบบหรือนโยบายอะไรที่จะได้ผล 100% ตลอดไป เมื่อเกิดปัญหานักเรียนและเอเจนท์ใช้ช่องว่างของกฎหมายในการหาประโยชน์ส่วนตัว ทั้งเปลี่ยนวีซ่า และ/หรือ เปลี่ยนโรงเรียนหลังเดินทางไปถึง หรือแม้แต่หนีหายไปเฉย ๆ เลยก็มี รัฐบาลจึงต้องพัฒนากฎหมายและการบังคับใช้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา ดังนั้นจะโทษว่าออสเตรเลียทำตัวเข้มขึ้นแบบไม่มีเหตุผลก็ไม่ได้ซะทีเดียว เพราะการพิจารณาเปลี่ยนแปลงนโยบายแต่ละครั้งก็ดูจากแนวโน้มพฤติกรรมของผู้ที่ถือวีซ่านักเรียนนั่นแหละ ที่ผ่านมาอาจจะมีเพื่อน ๆ ที่เกเรใช้วีซ่าผิดประเภทไปบ้าง ทำงานเพลินลืมเข้าเรียนไปบ้าง ได้รับข้อมูลงง ๆ จนตัดสินใจผิดพลาดไปบ้าง ก็เอาเป็นว่าลองดูว่านโยบายและมาตรการวีซ่าปีหน้าเป็นยังไง แล้วมาตั้งหลักกันอีกซักทีนะคะ


เพื่อน ๆ ที่สนใจสมัครเรียนออสเตรเลีย ไม่ว่าระยะสั้น-ยาว หรือวางแผนท่องเที่ยวออสเตรเลีย อย่าลืมให้ Hub 101 เป็นผู้ช่วยดูแลวีซ่าแบบครบวงจรนะคะ ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ


ข้อมูลเพิ่มเติม


 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับ Hub 101 ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ทุกวัน ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

Tel: 081 441 8448

Line ID: hub101study

Instagram: hub_101_study


Comments


bottom of page